“ทำไมปีนี้ Influencer marketing ถึงมาแรง?” บทความนี้มีคำตอบให้คุณครับ

in
“ทำไมปีนี้ Influencer marketing ถึงมาแรง?” บทความนี้มีคำตอบให้คุณครับ

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การทำการตลาดออนไลน์ปี 2018 นี้ สำนักไหนๆ ต่างก็พูดถึงการใช้ Influencer กันทั้งนั้น แต่ก่อนที่เราจะแห่กันไปทำตามกระแส ผมคิดว่าเราควรจะมาทำความรู้จักกับคำว่า Influencer Marketing กันให้ดีก่อนดีมั้ยครับ ว่ามันคืออะไรกันแน่? มันดียังไง? และทำไมมันถึงน่าทำ? 

Influencer marketing คืออะไร?

มันคือการใช้ “ผู้มีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมาย” เข้ามาช่วยในการทำการตลาดครับ ซึ่งตัว influencer อาจมีอิทธิพลต่อความนึกคิด ความเชื่อ ไปจนถึงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเลยทีเดียว ถ้าจะให้พูดง่ายๆ มันก็คือการทำการตลาดบน “ความสัมพันธ์” ของตัว influencer กับกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง

ให้ลองนึกภาพตามง่ายๆแบบนี้นะครับ คือ influencer เป็นคนที่กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ติดตาม หรือชื่นชอบด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งอยู่แล้ว และนักการตลาดก็เข้ามาอาศัยความสัมพันธ์ตรงนี้ในการทำการตลาดให้กับแบรนด์ โดยอาศัยแนวคิดพื้นฐานที่ว่า กลุ่มเป้าหมาย ย่อมอยากฟังคำแนะนำจากคนที่พวกเค้าเชื่อใจ มากกว่าคำโฆษณาจากแบรนด์

แล้วทำไมมันถึงฮิตเหลือเกินในช่วงนี้?

เดิมทีการใช้ Influencer marketing เนี่ยมันมีมานานแล้วครับ แต่ที่มันมาเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันนั้น มีสาเหตุหลักมาจากทั้งฝั่ง Supply และ Demand ครับ ฝั่ง Supply คือทุกวันนี้ในตลาดมี influencer ให้เลือกใช้เยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ สาเหตุหลักก็เพราะเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อคนได้แบบไร้เส้นกั้นนั้น เอื้อประโยชน์ให้ “ทุกคน” มีโอกาสในการสร้างสื่อ และ content ผ่านช่องทางของตัวเองขึ้นมาได้อย่างอิสระ ซึ่งก็เป็นที่มาของการกำเนิด influencer มากมาย ทั้งตัวจริง และตัวปลอม ทั้ง Net Idol, Blogger, Youtuber, Instagramer, Trainer, Expert มากมายเต็มตลาดไปหมด ประกอบกับทางฝั่ง Demand ที่ความต้องการใช้ influencer ของนักการตลาดก็มีมากขึ้นด้วย

เพราะในสภาพแวดล้อมที่ผู้บริโภคสามารถเลือกเสพย์แต่สิ่งที่ตัวเองสนใจนั้น ทำให้การดึงความสนใจโดยการโฆษณาตามปกติยากลำบากขึ้นไปทุกที นักการตลาดจึงต้องพยายามเสาะแสวงหาหนทางในการเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากขึ้นและดีขึ้น ซึ่งการใช้ influencer ก็เป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพทางหนึ่ง

ซึ่งเมื่อทั้ง supply และ demand ต่างก็มีเยอะขึ้น มันจึงทำให้ความนิยมของการใช้ influencer เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดแบบที่เราเห็นกันนี่ล่ะครับ

แล้วการใช้ Influencer marketing มันดียังไง?

1. คนมักเปิดใจรับสารจากคนที่เค้า “เชื่อใจ” มากกว่าฟังจากแบรนด์
อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นเลยครับว่านี่คือแนวคิดพื้นฐานของการทำการตลาดแบบนี้เลยก็ว่าได้ โดยธรรมชาติแล้ว influencer มักจะเป็นคนที่กลุ่มเป้าหมาย(ลูกค้า) มีทัศนคติในทางบวกด้วยอยู่แล้วเป็นทุน เพราะฉะนั้นการสื่อสารข้อความจากแบรนด์ผ่านคนที่กลุ่มเป้าหมายเชื่อใจ มักจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าแบบเห็นๆ

ลองจินตนาการตามผมดูก็ได้ว่า ถ้าคุณเป็นนักวิ่งมือใหม่ แล้วคุณอยากจะซื้อรองเท้าวิ่งดีๆซักคู่ ระหว่างดูโฆษณาจากแบรนด์ กับดูรีวิวรองเท้าจริงๆจากนักวิ่งที่คุณชอบ คุณอยากดูอะไรมากกว่ากัน?

2. สามารถกระตุ้นให้เกิดผลลัพธ์ทางการตลาดตามที่แบรนด์ต้องการได้อย่างดี
เคยมั้ย? ที่คุณรู้จักสินค้าบางตัวจาก blogger ที่คุณชื่นชอบ
เคยมั้ย? ที่คุณนั่งดูคลิปรีวิวสินค้าจากเพจที่คุณติดตาม แล้วเกิดอยากได้สินค้าขึ้นมามั่งในทันที
นั่นล่ะครับ คือผลลัพธ์ทางการตลาดในแบบที่แบรนด์ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ การให้ข้อมูลในการตัดสินใจ ไปจนกระทั่งการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

ซึ่งเชื่อมโยงจากข้อ 1 เลยครับ เมื่อกลุ่มเป้าหมายเปิดใจรับฟังสารที่แบรนด์ต้องการจะสื่อผ่าน influencer มากกว่า โอกาสที่จะเกิดผลลัพธ์ตามที่แบรนด์ต้องการมันก็มีมากกว่าตามไปด้วย

3. ให้ความรู้สึก Real กว่าการโฆษณา
การให้ influencer ได้มีส่วนร่วมกับสินค้าจริงๆ ได้ทดลองใช้จริงๆ และเปิดโอกาสให้ influencer ได้สร้าง content ออกมาในแบบที่เป็นธรรมชาติของเค้า เมื่อ content ถูกสื่อสารไปยังผู้บริโภค มันจะให้ความรู้สึกสมจริงกว่าการโฆษณาตามปกติค่อนข้างมาก “แม้กระทั่ง influencer จะเปิดเผยว่าได้รับการ sponsored ก็ตาม”

ลองนึกภาพตามเคสรองเท้าวิ่งด้านบนดูก็ได้ครับ ถึง influencer จะบอกเราโต้งๆเลยว่า คลิปรีวิวนี้เกิดจากการที่แบรนด์ส่งรองเท้ามาให้ลองใช้ แต่ถ้า influencer ได้ลองใส่วิ่งเป็นระยะเวลานึงจริงๆ และมาเล่าถึงข้อดีข้อเสียแบบจริงใจ มันย่อมให้ความรู้สึกสมจริงกว่าการที่แบรนด์โฆษณาข้อดีของตัวเองแน่ๆ

4. ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงคนที่ทำ Ad Blocking ได้
เมื่อโฆษณาในปัจจุบันมันมีเยอะมากจนเป็นการรบกวน และผู้บริโภคก็อยากจะเสพย์แต่สิ่งที่เค้าสนใจ ส่งผลให้การทำ Ad Blocking เพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคในการทำโฆษณารูปแบบหนึ่ง ซึ่งการใช้ Influencer marketing จึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้ในรูปแบบที่ไม่ใช่การทำโฆษณาโดยตรง

5. มีความยืดหยุ่นมากกว่าการทำโฆษณา
กฏและข้อห้ามในการลงโฆษณานั้นมีค่อนข้างเยอะ (โดยเฉพาะโฆษณา Facebook 55+) ในขณะที่การเผยแพร่ content แบบ organic ผ่านช่องทางของ influencer เองนั้นมีข้อจำกัดน้อยกว่า ข้อนี้รวมไปถึงการใส่ความคิดสร้างสรรค์ในเนื้อหาและรูปแบบการนำเสนอของ influencer ก็สามารถทำได้เต็มที่มากกว่าด้วยครับ

6. ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
มันคือความจริงอย่างน่าประหลาด ที่สินค้าบางตัวที่เราไม่เคยรู้จัก แต่เมื่อมันถูกแนะนำผ่านคนที่เราเชื่อใจ เราก็มักมั่นใจว่าสินค้านั้นน่าจะโอเคตามไปด้วยโดยปริยาย ทำนองเดียวกันครับ ถ้า influencer ที่คุณใช้ เป็นคนที่กลุ่มเป้าหมายของคุณเชื่อถือ มันก็จะส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์ด้วยเช่นกัน 

ทั้งนี้ ข้อดีต่างๆ ที่ผมกล่าวมาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อแบรนด์ “มีการใช้ influencer อย่างถูกต้องเหมาะสมเท่านั้นนะครับ” ตรงนี้สำคัญมากๆ เพราะเอาจริงๆ ทุกวันนี้มีแบรนด์จำนวนมากที่เจ็บตัวกันเป็นแถบกับการเลือกใช้ influencer โดยไม่มีการวางแผนให้ดีก่อน ทำให้ต้องเสียเงินไปมากมาย โดยที่ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรกลับมาเลย

สำหรับใครที่อยากรู้ รายละเอียดมากกว่านี้ สามารถเข้าไปตามอ่านได้ที่บทความต่อไปเลยครับ
เราจะใช้ INFLUENCER มาช่วยโปรโมทสินค้ายังไง “ให้ปัง ไม่ใช่แป้ก” บทความนี้เรามีวิธีมาบอกคุณ